ร้องเรียน เรื่อง จนท.ตำรวจ ส.น. บางยี่ขัน เกือบ 20 คน รุมทำร้ายร่างกาย พร้อมจับกุม เขียนสำนวนเท็จ แล

ร้องเรียน เรื่อง จนท.ตำรวจ ส.น. บางยี่ขัน เกือบ 20 คน รุมทำร้ายร่างกาย พร้อมจับกุม เขียนสำนวนเท็จ และยัดคดีให้ 3 คดี นำทีมโดย พ.ต.ท. วีรากร ไวยวุฒิ ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ ส.ต.ท.จีระ กลั่นประดิษฐ์ ด.ต.เติมพันธ์ วัฒนวราง ส.ต.ท.ชูรัตน์ บุษรักษ์

หัวหน้าชุดตั้งด่าน : พ.ต.ท. วีรากร ไวยวุฒิ
ผู้จับกุม : ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ (ตำรวจฝ่ายสายสืบ นอกเครื่องแบบ ซึ่งไม่ได้ใส่เครื่องแบบตำรวจ)
ร้อยเวร : ร.ต.ท. ชินกร อัศวภูมิ
สถานที่เกิดเหตุ : สะพานข้ามคลองบางยี่ขัน ส.น. บางยี่ขัน


เมื่อ คืนของวันที่ 14 มกราคม 2548 ผมได้นัดกะเพื่อนอีก 2 คน เพื่อไปเที่ยวกันแถวถนนข้าวสาร และได้นัดกันเพื่อไปต่อแถวตั้งฮั่วเส็ง โดยแยกกันไปโดยรถ 2 คัน โดยผมได้ขับรถจักรยานยนต์ไปคนเดียว โดยผ่านสะพานปิ่นเกล้า และได้เลี้ยวไปที่บริเวณเกิดเหตุ โดยเข้าใจว่าเป็นถนนที่จะไปแถวตั้งฮั่วเส็ง เมื่อขับไปจนสุดถนน และเป็นทางบังคับให้กลับรถ ก็รู้สึกว่ามาผิดทาง และเห็นตู้โทรศัพท์ทางด้านซ้ายของถนน ก็จึงได้ขับรถขึ้นไปจอดอยู่ข้างๆตู้โทรศัพท์ และได้เดินเข้าไปโทรศัพท์ถามทางจากเพื่อน และเห็นว่ามีไฟคล้ายๆจะเป็นด่านหรืออาจจะเป็นอุบัติเหตุอยู่ข้างหน้าห่างออก ไปเป็นระยะทางประมาณ 200-400 เมตร จากตู้โทรศัพท์


ในระหว่างนั้น ได้มีชายแต่งตัวธรรมดา ใส่กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ใส่เสื้อสีเดียวกันกับกางเกงยีนส์ (ทราบชื่อภายหลังว่า ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ) เดินเข้ามา และได้ชี้ให้ตำรวจในเครื่องแบบอีกคน (ทราบชื่อภายหลังว่า ชื่อ ส.ต.ท.จีระ กลั่นประดิษฐ์) ที่กำลังเดินเข้ามาหาผม และบอกว่า "คันนี้ด้วย" ทาง ส.ต.ท.จีระ กลั่นประดิษฐ์ ได้เข้ามาถามผมว่า "มีสำเนารถหรือเปล่า" แต่ทางผมไม่ได้พูดตอบกลับไป เพราะกำลังโทรศัพท์อยู่ในตู้โทรศัพท์ ทาง ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ จึงได้เข้ามาพูดกับผม (แบบตะคอก) ว่า "ตำรวจพูดอยู่กับคุณ รู้เรื่องหรือเปล่า" แต่ผมก็ไม่ได้พูดตอบกลับไป ทาง ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ จึงได้เข้ามาพูดกับผมแบบตะคอกและจ้องมาที่หน้าผม (ออกแนวกวนๆ เหมือนนักเลง) ว่า "kooพูดอยู่กับมึ-งเนี่ย ตำรวจเค้าพูดอยู่กับมึ-ง มึ-งรู้เรื่องหรือเปล่า" โดยพูดประโยคดังกล่าวประมาณ 3 ครั้ง


หลัง จากนั้น ทางผมได้เดินออกมาจากตู้โทรศัพท์ และได้เดินเข้าไปถาม ส.ต.ท.จีระ กลั่นประดิษฐ์ ว่า ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ เป็นตำรวจหรือเปล่า เพราะไม่แน่ใจ เนื่องจาก ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ ไม่ได้ใส่เครื่องแบบตำรวจ และยังพูดจาเหมือนนักเลง ทาง ส.ต.ท.จีระ กลั่นประดิษฐ์ ได้ตอบกลับมาว่า "ไม่ใช่ตำรวจ" ทางผมจึงได้พยายามสอบถาม ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ แต่ปรากฏว่า ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ ได้วิ่งเข้ามาหาและง้างหมัดขวาเข้ามาชกผม และผมได้ชกตอบโต้ป้องกันตัวกลับไป ในระหว่างนั้น ทาง ส.ต.ท.จีระ กลั่นประดิษฐ์ ได้พยายามเข้ามาช่วยเหลือ ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ


ใน ระหว่างนั้น ได้มีตำรวจที่ด่านตรวจ ได้เดินเข้ามา และดึงผมให้เข้าไปใกล้ๆกับด่านตรวจ โดยมีกำลังตำรวจ (ประมาณเกือบๆ 20 คน) เข้ามาล้อมรอบตัวผมเป็นรูปวงกลม (ประมาณ 2 รอบ) และพยายามขัดขาผม และจับกดหลังผมด้วยมือและเท้า เพื่อให้หมอบกับพื้น โดยในระหว่างนั้น ได้มีการใช้กำลังจากตำรวจทั้งจากทางมือและเท้า ทั้งชก เตะ และเหยียบ มาที่ตัวผม ที่ซอกคอ บั้นเอวและที่อื่นๆ และพยายามจับมือของผมไขว้หลัง และจับใส่กุญแจมือ และใส่ท้ายรถ แล้วไปโรงพัก


โดยในระหว่างที่ อยู่ที่โรงพัก ก็ได้ถอดกุญแจมือให้ และทางผมได้ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองโทรบอกญาติด้วยตนเอง โดยไม่มีตำรวจท่านใดมาถามผมเรื่องโทรบอกญาติเลย เมื่อเพื่อนและญาติของผมมา ก็พยายามขัดขวางไม่ให้เพื่อนและญาติของผมเข้ามา โดยมีคนกั้นไว้ ไม่ให้เข้าไป และบอกว่า "ไม่มีผู้ต้องหาชื่อนี้" เมื่อมีญาติผมโทรเข้ามาหลายครั้ง ทางตำรวจก็จึงได้ย้ายผมไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งอยู่ชั้น 3 และในระหว่างเขียนบันทึกการจับกุม (โดยมีตำรวจเกือบ 20 คน ช่วยกันร่าง) ก็ได้แยกผมไว้อีกห้องหนึ่ง และได้ปิดห้องไม่ให้ผมได้ยินเสียง ถ้าผมเปิดประตู ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ (ไม่ได้ใส่เครื่องแบบตำรวจ) ก็จะเดินมาปิด โดยเป็นเช่นนี้อยู่หลายรอบ ในระหว่างนั้น ได้มีตำรวจ ชื่อ พ.ต.ท. วีรากร ไวยวุฒิ ได้เข้ามาสอบถามในระหว่างเขียนสำนวนว่า "ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งมาว่าคุณให้นิ้วกลางเค้า และชกเค้า คุณจะยอมรับไหม ถ้ายอมรับ จะมีโทษแค่ปรับ และจะได้เขียนสำนวนอีกอย่างหนึ่ง" (โดยไม่ได้พูดถึงเรื่องที่กลุ่มตำรวจมารุมทำร้ายร่างกายผมเลย) โดยทางผมบอกว่าไม่ยอมรับ และ พ.ต.ท. วีรากร ไวยวุฒิ ได้เดินกลับออกไปข้างนอก หลังจากนั้น พี่สาวผม พี่เขยและเพื่อนอีก 2 คน ได้แหวกคนกั้นเข้ามาในห้องได้ ทางกลุ่มตำรวจและ ด.ต.อุดม ธูปเพ็ญ ก็กระจายตัวออกจากกันแบบมีพิรุธ (แตกฮือ) เหมือนกำลังทำอะไรผิดสักอย่างหนึ่ง


หลังจากนั้น ก็ได้นำผมไปเข้าห้องขัง ทั้งๆที่ผมได้รับบาดเจ็บและมีเลือดไหลอยู่ จากการโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจรุมทำร้ายร่างกาย และพยายามถ่วงเวลาในการประกันตัวให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และได้นำผมไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศิริราช และนำตัวผมไปเข้าห้องขังต่ออยู่หลายชั่วโมง จึงสามารถประกันตัวเองออกมาได้ (เวลาเกิดเหตุ ห้าทุ่ม แต่กว่าจะประกันตัวได้ เกือบเช้า)


โดยตัว ผมได้โดนยัดข้อหาทั้งหมด 3 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวาง และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน โดยหลังจากนั้นก็โดนยึดรถ และให้มารายงานตัวที่โรงพักทุกสัปดาห์ โดยมีการพูดขู่บอกว่า "ถ้าไม่มารายงานตัว จะโดนยึดเงินประกัน และออกหมายจับ" โดยเรื่องทั้งหมดตอนนี้อยู่ที่อัยการ


โดยประวัติของผมนั้น จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปิดของรัฐบาล ไม่เคยโดยทัณฐ์บนในระหว่างศึกษาทั้งในระดับ ประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย และเคยสอบ pre entrance ได้ที่ 1 ของจังหวัดกาญจนบุรี และตอนนี้ทำงานด้านเว็บไซด์อยู่


โดยล่าสุดนี้ได้มีหนังสือลับ จากสำนักนายกรัฐมนตรี โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร โดยได้ส่งไปที่ ส.น. บางยี่ขัน (หนังสือนี้ได้ส่งผ่านทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งต่อให้ บช.น. และส่งต่อให้ ส.น. บางยี่ขัน) โดยเป็นเรื่องที่ทางผมได้ร้องเรียนไว้กับทางนายกรัฐมนตรี